มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับเครือข่ายองค์กรประชาธิปไตย และภาคประชาสังคมระดับโลก ได้แก่ Asia Democracy Network (ADN), CIVICUS: World Alliance for Citizen Participation, และ Asia Pacific Social Forum (APSF) เปิดงาน “งานสัปดาห์ประชาสังคม นานาชาติ และ เวทีประชาสังคมเอเชียแปซิฟิก ปี 2568” (International Civil Society Week & Asia Pacific Social Forum 2025 – ICSW & APSF 2025) เวทีระดับโลกที่รวมผู้นำองค์กรภาคประชาสังคม นักวิชาการ นักกิจกรรม และเยาวชนกว่า 1,300 คน จาก 90 ประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และแนวทาง ความร่วมมือ ขับเคลื่อนสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืน
รศ.ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวต้อนรับผู้แทนจาก 90 ประเทศ ในพิธีเปิดงาน International Civil Society Week & Asia Pacific Social Forum 2025 (ICSW & APSF 2025) “ภาคประชาสังคมคือหัวใจของประชาธิปไตย การจัดงานครั้งนี้ที่ธรรมศาสตร์จึงไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ แต่คือการสานต่อภารกิจของมหาวิทยาลัยในการเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยน และการร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนโลกที่เท่าเทียมและยั่งยืน”พร้อมเน้นว่า มหาวิทยาลัยไม่ควรเป็นเพียงสถานที่ถ่ายทอดความรู้ แต่ควรเป็น “เวทีแห่งเสรีภาพและความรับผิดชอบทางสังคม” เพื่อหล่อหลอมพลเมืองที่กล้าคิด กล้าพูด และกล้าปกป้องความถูกต้อง
ภายในพิธีเปิด ยังได้รับเกียรติจากผู้แทนภาคีเครือข่ายสำคัญระดับภูมิภาคและระดับโลก ร่วมกล่าวปาฐกถา และ แลกเปลี่ยนแนวคิด ได้แก่ ดร.โคทม อารียา ประธานมูลนิธิวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ACFOD), คุณแมนดีพ ทิวานา เลขาธิการองค์กร CIVICUS, คุณอีเชาว์ สุเปรียดี เลขาธิการเครือข่ายประชาธิปไตยแห่งเอเชีย (ADN), คุณวิชัย นะสุวรรณโน รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และคุณรังสรรค์ มั่นคง นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดเวทีระดับนานาชาติครั้งนี้ เพราะธรรมศาสตร์ยึดมั่นในอุดมการณ์แห่งประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และเสรีภาพทางความคิดมาโดยตลอด นับตั้งแต่วันก่อตั้ง มหาวิทยาลัยได้ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนและความถูกต้อง เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมและยั่งยืนอย่างแท้จริง
ธรรมศาสตร์จะยังคงเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยน และการขับเคลื่อนเพื่อความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะร่วมติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เพื่อร่วมกันผลักดันพลังของภาคประชาสังคม และร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศไทยและโลก